รีวิวหนัง: WEAPONS (2025) – ปริศนาเด็กหาย

การหายตัวไปของเด็กเพียงคนเดียว…อาจเผยความลับอันมืดดำที่ซ่อนอยู่ในทั้งเมือง

WEAPONS (2025) คือหนึ่งในภาพยนตร์ทริลเลอร์-สืบสวนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปีนี้ ผลงานจากผู้กำกับ Zach Cregger (จาก Barbarian) ที่ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างบรรยากาศชวนอึดอัด และการเล่าเรื่องที่ค่อย ๆ คลี่คลายปริศนาแบบซับซ้อน คราวนี้เขามาพร้อมโปรเจกต์ใหญ่ที่ผสมผสานแนว crime thriller เข้ากับ psychological horror ได้อย่างลงตัว

หนังได้รับการโปรโมตว่า “จะเปลี่ยนวิธีคิดของคุณเกี่ยวกับการหายตัวของคนไปตลอดกาล” และหลังจากชมแล้ว ต้องบอกว่ามันไม่ใช่หนังสืบสวนทั่วไป แต่เป็นเรื่องราวที่พาเราดำดิ่งสู่ด้านมืดของสังคมและจิตใจมนุษย์

เนื้อเรื่องย่อ (ไม่มีสปอยล์)

เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อเด็กชายวัย 12 ปีชื่อ อีธาน หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยระหว่างเดินกลับบ้านในเมืองเล็ก ๆ รัฐหนึ่งของอเมริกา การค้นหาดำเนินไปอย่างเร่งด่วนโดยตำรวจ ทว่าดูเหมือนทุกคนในเมืองจะเก็บงำความลับบางอย่างไว้

โคลิน นักข่าวสืบสวนอิสระที่เคยมีอดีตฝังใจกับคดีเด็กหายเมื่อ 10 ปีก่อน ถูกดึงให้เข้ามามีส่วนร่วมในการค้นหาความจริง แต่ยิ่งเขาขุดลึกลงไปมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งพบว่าผู้คนรอบตัวมี “อาวุธ” บางอย่างที่ใช้ทำร้ายกันได้ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจ เงินตรา หรือแม้กระทั่ง “ความกลัว”

เมื่อเรื่องราวเริ่มโยงไปถึงองค์กรลับและการทดลองที่เกี่ยวข้องกับจิตวิทยาเด็ก โคลินต้องเผชิญกับคำถามสำคัญ—เขาพร้อมจะเปิดโปงความจริงหรือไม่ ถ้าความจริงนั้นอาจทำลายทั้งเมือง…และตัวเขาเอง

จุดเด่นของหนัง

1. โครงเรื่องซับซ้อนและชวนติดตาม

WEAPONS ไม่ใช่หนังที่เล่าเป็นเส้นตรง แต่ใช้การตัดสลับไทม์ไลน์และมุมมองตัวละครหลายตัว ทำให้ผู้ชมต้องคอยเก็บรายละเอียดเพื่อประกอบเป็นภาพใหญ่ ความสนุกคือการคาดเดาว่าใครพูดจริง ใครโกหก และเหตุการณ์ในอดีตเกี่ยวข้องกับปัจจุบันอย่างไร

2. บรรยากาศกดดันและงานภาพจัดจ้าน

ผู้กำกับใช้โทนภาพหม่น มีเม็ดฝน หมอก และมุมกล้องที่ให้ความรู้สึก “เหมือนมีคนแอบมอง” ตลอดเวลา ทำให้แม้แต่ฉากเดินในซอยเงียบ ๆ ก็ชวนให้ลุ้นจนเกร็ง

3. การแสดงที่ทรงพลัง

นักแสดงนำ Josh Brolin (สมมติรับบทโคลิน) ถ่ายทอดความเป็นนักข่าวที่แข็งนอกแต่เปราะในได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนบทแม่ของเด็กที่หายตัวไป (รับบทโดย Carey Mulligan) ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความสิ้นหวังที่สมจริงจนทำให้คนดูสะเทือนใจ

4. ประเด็นสังคมที่แฝงอยู่

หนังไม่ได้เล่าเพียงคดีเด็กหาย แต่ตั้งคำถามถึงความไว้วางใจในชุมชน ความเหลื่อมล้ำทางอำนาจ และการใช้ “ความกลัว” เป็นเครื่องมือควบคุมคนอื่น ทำให้หนังมีน้ำหนักเชิงสังคมและชวนคิดต่อหลังดูจบ

จุดด้อยของหนัง

1. จังหวะเรื่องช่วงต้นค่อนข้างช้า

ครึ่งชั่วโมงแรกอาจทำให้คนดูบางกลุ่มรู้สึกว่าหนังเดินเรื่องช้า เพราะผู้กำกับเลือกปูบรรยากาศและรายละเอียดตัวละครมากเป็นพิเศษ ซึ่งแม้จะมีประโยชน์ต่อเนื้อหา แต่ก็ทำให้ผู้ชมที่อยากได้ความระทึกเร็ว ๆ อาจต้องรอ

2. โครงเรื่องซับซ้อนจนบางคนอาจสับสน

ด้วยการตัดสลับเวลาและการเล่าแบบหลายมุมมอง หากผู้ชมไม่ตั้งใจหรือพลาดรายละเอียดเล็ก ๆ อาจทำให้ตามไม่ทันและรู้สึกหลงทางกลางเรื่องได้

3. ตอนจบเปิดกว้างเกินไป

แม้ตอนจบจะสอดคล้องกับธีมของหนัง แต่ก็ทิ้งคำถามไว้หลายข้อที่ไม่ได้คำตอบชัดเจน ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมที่ชอบตอนจบปิดจบแบบสมบูรณ์รู้สึกไม่พอใจ

สำหรับใครที่ควรดู WEAPONS (2025)

• คนที่ชอบหนังสืบสวนที่มีปมลึกและต้องคิดตาม

• แฟนหนังแนวทริลเลอร์-จิตวิทยาที่เน้นบรรยากาศกดดันมากกว่าฉากแอ็กชัน

• ผู้ที่สนใจประเด็นสังคมแฝงในเนื้อเรื่อง เช่น อำนาจ ความเหลื่อมล้ำ และความกลัวในชุมชน

คะแนนจากรีวิว: ★★★★☆ (4/5)

WEAPONS (2025) เป็นหนังที่ “ไม่ง่าย” แต่ให้รางวัลกับคนดูที่ตั้งใจติดตามอย่างคุ้มค่า ด้วยการแสดงคุณภาพสูง เนื้อเรื่องซับซ้อน และบรรยากาศที่กดดันจนแทบหายใจไม่ทั่วท้อง แม้จะมีจุดที่เดินเรื่องช้าและตอนจบที่เปิดกว้าง แต่ก็เป็นหนึ่งในหนังทริลเลอร์ที่ดีที่สุดของปีนี้

สรุปข้อดี-ข้อด้อย